4 การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจเอาไว้ใช้สมัครเรียน หรือทำงาน

4 การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจเอาไว้ใช้สมัครเรียน หรือทำงาน

4 การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจเอาไว้ใช้สมัครเรียน หรือทำงาน สำคัญมากในปัจจุบัน เรื่องของภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ใช้เป็นภาษาสากล หรือภาษากลางของโลก นับว่าเป็นภาษาที่มีความสำคัญมากกับการทำงาน และการดำเนินชีวิต

สำหรับผู้ที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ช่ำชอง ก็จะทำให้ได้รับโอกาสที่ดี มีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น แน่นอนว่าการมีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษก็จะมีผลกับการทำงานด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะประเทศไทยของเราที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก

ด้วยความที่ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีการสอบวัดระดับทางภาษา เพื่อให้เราทราบถึงระดับความสามารถทางการใช้ภาษาอังกฤษของตัวเองอย่างแท้จริง

และเพื่อให้ได้ใบรับรองทักษะการใช้ภาษาตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการสมัครงานและการทำงานหรือการเรียนต่อในต่างประเทศ ในประเทศไทยมีการสอบวัดระดับทางภาษาอังกฤษที่เป็นมาตรฐานอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทนั้นมีจุดมุ่งหมายและจุดประสงค์ในการสอบแตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้

TOEIC

TOEIC

TOEIC นั้นย่อมาจาก Test of English for International Communication เป็นการสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงาน นิยมเรียกสั้นๆ กันว่า โทอิก

การทดสอบ TOEIC นี้จะเน้นเรื่องการฟังและการอ่านภาษาอังกฤษเป็นหลัก ใช้การทำข้อสอบแบบปรนัย อการเลือกคำตอบ โดยแบ่งเป็น ส่วนของการฟัง 100 ข้อ คะแนนรวม 495 คะแนน และ ส่วนของการอ่าน 495 คะแนน รวมจำนวนข้อสอบทั้งหมด 200 ข้อ คะแนนเต็ม 990 คะแนน แต่ปัจจุบันนี้ได้แบ่งออกเป็น TOEIC Listening and Reading Test ( การอ่านและการฟัง ) และ TOEIC Speaking and Writing Tests ( การพูดและการฟัง )

TOEIC นั้นเป็นการทดสอบภาษาอังกฤษที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเพื่อไปยื่นร่วมกับใบสมัครงานในบริษัทต่างๆ ซึ่งจะมีการกำหนดฐานคะแนนที่ผู้สมัครต้องทำได้ เช่น ตำแหน่ง Translator ต้องการคะแนน TOEIC ไม่ต่ำกว่า 800 คะแนน เป็นต้น

TOEFL

TOEFL

TOEFL หรือ Test of English as a Foreign Language เป็นแบบทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ เรียกสั้นๆ ว่า โทเฟิล หรือ โทเฟล ซึ่งเป็นการสอบภาษาอังกฤษเชิงวิชาการที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก

การทดสอบภาษาอังกฤษ TOEFL จะครอบคลุมทักษาทางภาษาทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งในแต่ละทักษาะจะมีคะแนนให้ 30 คะแนน รวมทั้งหมดเป็น 120 คะแนน และคะแนนการสอบ TOEFL มีอายุที่ใช้งานได้ 2 ปีนับจากวันสอบ จึงควรสอบเมื่อจำเป็นต้องใช้จะดีที่สุด

TOEFL เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ที่ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ เพราะได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลก

IELTS

IELTS

IELTS ย่อมาจาก International English Language Testing System คือการวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่สนใจทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่สนใจไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือต้องไปทำงานต่างประเทศ มักเรียกกันว่า ไอเอลส์

การสอบ IELTS นั้นจะครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ คือฟัง พูด อ่าน และเขียน แต่จะเอาคะแนนมาจัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ ซึ่งมีทั้งหมด 9 ระดับ ได้แก่
                ระดับ 1 ใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
                ระดับ 2 ไม่สามารถสื่อสารคำศัพท์ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานได้
                ระดับ 3 มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษที่จำกัดมาก
                ระดับ 4 มีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษจำกัด
                ระดับ 5 สามารถใช้ภาษาอังกฤษในระดับปานกลาง
                ระดับ 6 มีความสามารถในระดับการใช้งานภาษาอังกฤษได้
                ระดับ 7 มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
                ระดับ 8 มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมาก
                ระดับ 9 มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเลิศ

IELTS เป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับอย่างมากในทวีปยุโรป มหาวิทยาลัยในบางประเทศ อย่าง สหราชอาณาจักร มักจะสนใจบุคคลที่มีคะแนนการสอบ IELTS มากกว่า จึงทำให้การสอบ IELTS เหมาะสมอย่างมากสำหรับการใช้ศึกษาต่อ และทำงานในบริษัทฝั่งทวีปยุโรป โดยผลการสอบนั้นมีอายุ 2 ปี เช่นเดียวกับการสอบ TOEFL

OPI และ OPIC

OPI และ OPIC

OPI ย่อมาจากคำว่า Oral Proficiency Interview ส่วน OPIC นั้นย่อมากจากคำว่า Oral Proficiency Computer ซึ่งการสอบทั้งสองอย่างนี้เป็นการสอบวัดระดับความสามารถเฉพาะด้านการพูดภาษาอังกฤษ โดยส่วนมากจะนำคะแนนจากการสอบมาใช้ในด้านธุรกิจ การทำงานในต่างประเทศ หรือแม้แต่การเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และเพื่อใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ระดับความสามารถด้านทักษะการพูดภาษาอังกฤษของตนเอง

การสอบ OPI นั้น จะเป็นการสนทนากับผู้ดำเนินการสอบในห้อง แต่สำหรับการสอบ OPIC ผู้เข้าสอบจะทำการสอบออนไลน์ด้วยการตอบคำถามผ่านคอมพิวเตอร์ จึงทำให้การสอบแบบ OPIC มีค่าบริการที่ถูกกว่า เพราะผู้สอบไม่จำเป็นต้องเดินทางมาสอบ และสามารถดำเนินการสอบผ่านระบบออนไลน์ได้

การสอบ OPI และ OPIC จะได้รับการประเมินและให้คะแนนโดย ACTFL ซึ่งจะมีเกณฑ์พิจารณา 4 เกณฑ์ ได้แก่ Global Task and Functions หรือ หน้าที่และบทบาทที่เป็นสากล โดยจะโฟกัสในเรื่องของทักษะ Delivery Skill ความคล่องแคล่ว และความสม่ำเสมอ Context / Content คือ บริบทและส่วนของเนื้อหา ดูจากทักษะการใช้คำเชื่อมโยงกัน และการแสดงความคิดเห็น Accuracy คือ ความแม่นยำในการใช้ภาษา และ Text Type หรือ ชนิดของคำ อิงจากความยาวของคำ และโครงสร้างของประโยคที่ใช้

ปัจจุบันบริษัทใหญ่ในประเทศเกาหลี อย่าง SAMSUNG, LG ฯลฯ ต่างต้องการผลสอบ OPI และ OPIC จากผู้สมัคร เพื่อประโยชน์ในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับชาวต่างชาติ ทำให้การสอบ OPI และ OPIC มีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่สนใจไปทำงานในประเทศดังกล่าว

ทั้ง 4 การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจเอาไว้ใช้สมัครเรียน หรือทำงาน นี้คือการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่มีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับและนิยมในระดับนานาชาติว่ามีความเที่ยงตรงมากที่สุด

และสามารถนำไปใช้เพื่อสมัครทำงานหรือสมัครเรียนได้ เพราะฉะนั้นเราควรต้องทราบก่อนว่างานที่เราต้องการทำ หรือที่ที่เราอยากจะไปเรียนต่อนั้นใช้การวัดระดับภาษาอังกฤษแบบไหน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจถูกนั่นเอง

ติดตามบทความเรื่องราวที่น่าสนใจได้ ที่นี่