ธนินท์ เจียรวนนท์ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี ในนามเจ้าสัว CP คือบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ จนกลายเป็นบุคคลชั้นนำของประเทศไทย ที่สำคัญเขายังเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 2 ของประเทศไทย โดยการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บ ซึ่งเป็นข้อมูลของเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 โดยมีทรัพย์สิน จำนวน 6,800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งติดอันดับที่ 81 ของโลกด้วย บทความเกี่ยวกับธุรกิจวันนี้ จึงขอนำเสนอมุมมอง การทำธุรกิจ ของเจ้าสัว CP ว่ามีหลักการคิดแบบไหน และทำอย่างไรให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้

คิดให้ใหญ่ แต่ทำให้ใหญ่กว่า
คุณธนินท์ กล่าวว่า การจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เหมือนที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ คือ คิดจะทำแล้ว ต้องทำให้สำเร็จ ปัจจุบันธุรกิจเครือซี.พี.ได้ขยายการลงทุนในหลายประเทศทั่วโลก สร้างชื่อเสียง และนำเงินเข้ามาสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งหมดนี้มาจากการคิดใหญ่ และทำให้ใหญ่กว่าที่คิดทั้งนั้น
โฟกัสที่ความสำเร็จของธุรกิจเป็นหลักใน การทำธุรกิจ
ไม่ว่าจะทำธุรกิจใด ๆ คุณธนินมักให้ความสำคัญในเรื่องของการทำงานเป็นหลัก ไม่ได้คิดเรื่องผลกำไร ว่าทำธุรกิจนี้แล้วจะต้องได้กำไรมากน้อยเท่าไหร่ เขาคิดแต่เพียงว่าทำธุรกิจนั้นแล้ว จะมีโอกาสประสบความสำเร็จหรือไม่ หากพูดให้เข้าง่าย ๆ ก็คือทำให้เต็มที่ก่อน พอเราทำเต็มที่ทำให้ดีที่สุด สุดท้ายแล้วเรื่องผลตอบแทน ทั้งกำไรและส่วนอื่น ๆ มันจะมี รีเฟคกลับมาหาเราเอง
เน้นทำธุรกิจที่เกี่ยวกับคนจำนวนมาก
หากจะทำธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจนั้นจะต้องเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก คือ คนต้องกิน ต้องใช้ แบบขาดไม่ได้ หากเป็นธุรกิจจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับคนจำนวนน้อย ๆ จะถือว่าธุรกิจนั้นเล็ก แม้ว่าธุรกิจจะเกี่ยวข้องกับประเทศก็ยังถือว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ใหญ่มากนัก เพรูรกิจขนาดใหญ่ของเจ้าสัวซี.พี คือต้องใหญ่ระดับโลกเท่านั้น จึงจะเรียกเป็นธุรกิจขนาดใหญ่นั่นเอง
เน้นการสร้างคน เพื่อรองการเติบโตของธุรกิจ
กุญแจสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของเครือซี.พี. คือเน้นการสร้างคน โดยเจ้าสัวซี.พีกล่าวว่า เขาให้ความสำคัญกับการสร้างคน และมีนโยบายให้ผู้นำกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ในเครือซี.พี.เร่งดำเนินการสร้าง และพัฒนาคนเก่ง เพื่อรองรับการเติบโตบนเวทีการค้าโลก เพราะถ้าไม่มีคนเก่ง ซี.พี.ก็ไม่สามารถชนะในตลาดโลกได้ ดังนั้น เรื่องของการสร้างคนในการทำธุรกิจ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ประกอบการส่วนต่าง ๆ ไม่ควรมองข้ามเด็ดาด
รู้จักรักษาคู่แข่ง
เจ้าสัวซี.พี กล่าวว่าในการทำธุรกิจของเขา จะพยามยามแข่งขันกันให้อยู่ในขอบเขต จะไม่แข่งขันจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนต้องพังไปข่างหนึ่ง หากท่านมีความสามารถก็ไปหาธุรกิจอื่นทำได้ ไม่ต้องมาแย่งข้าวชามเดียวกัน เพราะสุดท้ายก็ไม่มีใครอิ่มสักคน แล้วก็ไม่มีประสิทธิภาพด้วย ธุรกิจเครือซี.พี.จึงไม่เคยทำลายคู่แข่ง แต่จะเน้นการบางตลาด เพื่อให้อยู่รอดกันทุกฝ่ายมากกว่านั่นเอง
เน้นการดูแลสังคม และไม่เอาเปรียบลูกค้า
การให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของลูกค้า ที่จะได้รับเป็นหลัก รวมไปถึงคู่ค้าและซัพพลายเออร์ต่าง ๆ พวกเขาเหล่านี้จะต้องดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง มั่นคง เติบโตไปด้วยกัน ที่สำคัญการทำธุรกิจต้องไม่เอาเปรียบลูกค้า และแบ่งปันเพื่อดูแลสังคมรอบข้าง มีการจ้างแรงงาน เพราะธุรกิจซี.พี.เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ถ้าสังคมอยู่ไม่ได้ ซี.พี.ก็อยู่ไม่ได้ เจ้าสัวซี.พี จึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับผลประโยชน์ของลูกค้า และดูแลสังคมไปพร้อม ๆ กันนั่นเอง

มองว่าคนอื่นเก่งกว่าตัวเองเสมอ
หนึ่งแนวทางที่ส่งให้เจ้าสัวซี.พี ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจมากขนาดนี้ ต้องยกให้การมองว่าคนอื่นเก่งกว่าตัวเองเสมอ การมองคนอื่นว่าเก่งกว่าเสมอ และไม่มองใครว่าเก่งสู้ตัวเองไม่ได้ คือการที่ผู้ประกอบการรู้จักเปิดโอกาส และให้โอกาสลูกน้องได้แสดงความสามารถ เมื่อใครแสดงความสามารถออกมาได้ดี ก็จะต้องส่งเสริมสนับสนุนให้เขามีตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีก และจะต้องพยายามรักษาเขาให้อยู่กับบริษัทนานที่สุด เพื่อให้องค์กรเจริญก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ ไม่ใช้ล้าหลังลง เพราะมาจากแนวความคิดของคน ๆ เดียว
พยายามดึงคนเก่ง จากด้านนอกข้ามาทำงาน
ธุรกิจจะมั่นคงได้ ผู้บริการต้องรู้จักจ้างผู้บริหารจากข้างนอกมาร่วมทำงานกับคนในครอบครัว แม้ว่าคนเก่งเหล่านั้นจะไม่ใช่ญาติ แต่ถ้าสามารถเข้าใจถึงวัฒนธรรมองค์กร ก็มีสิทธิเป็นใหญ่ได้เสมอตามระบบอาวุโส สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้นั่นเอง
เคารพและให้เกียรติ ผู้บังคับบัญชา
แม้ในองค์กรจะมีคนเก่งแค่ไหน แต่หากคนเหล่านั้นไม่รู้จักเคารพ หรือให้เกียรติผู้บังคบบัญชา หรือผู้ที่อาวุโสกว่า ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บไว้ในองค์กร เพราะหากทำให้ผู้บังคับบัญชาไม่พอใจ หรือไม่รู้สึกรักใคร่ สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสเติบโตในสายงานได้
เน้นการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อความก้าวหน้า
เน้นการศึกษาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ก้าวทัน และไม่ให้ล้าสมัย เงินที่ใช้กับเรื่องนี้สำคัญมากยิ่งกว่าการลงทุน ถ้าคนของเราความรู้ไม่ทันสมัยแล้ว จะไปค้าขายอย่างไร เพราะโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เจ้าสัวซี.พี. จึงให้ความสำคัญกับการเดินทางไปศึกษาดูงาน เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ในต่างประเทศ เพื่อนำกลับมาปรับใช้ในธุรกิจเสมอนั่นเอง
จบศิลป์ภาษา เรียนต่อคณะอะไรดี? น้อง ๆ ที่กำลังจะจบการศึกษา คงมีคำถามในใจมากมาย และเกิดอาการสับสนตลอดเวลา ว่าจบระดับมัธยมแล้ว เราจะเรียนต่อคณะไหนดี ความจริงเรื่องการเข้าเรียนต่อ เป็นเรื่องที่น้อง ๆ หลาย ๆ คน
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : เมื่อ กล้ามเนื้อสักเสบ ควรหลีกเลี่ยงอาหารอะไร ?